Yesterday is but today’s memory, and tomorrow is today’s dream.
–Khalil Gibran
มาถึงเรื่องโรคอัลไซเมอร์ที่คนมักเรียกแทนโรคสมองเสื่อม ทั้งที่จริงแล้ว โรคอัลไซเมอร์นี้เป็นประเภทหนึ่งของโรคสมองเสื่อมเท่านั้น (เดาว่าชื่อโรคอัลไซเมอร์นี้ ดังเพราะอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง)
โรคอัลไซเมอร์ เป็นอย่างไร
- เกิดจากการเสียเซลล์ในสมองหรือเสียการสร้างสารสื่อนำประสาท เช่น Acetylcholine
- ส่วนใหญ่จะไม่ใช่กรรมพันธุ์
- แต่ต่อให้เป็นกรรมพันธุ์ ก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวล (จริงไหม) (จากสถิติพบว่า หากผู้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ก่อนอายุ 65 ลูกมีความเสี่ยงมากหน่อย แต่ถ้าเป็นหลังอายุ 65 ลูกเสี่ยงเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น)
- อาการของโรค มีสามระยะ ระยะแรกพอช่วยตนเองได้ ระยะกลางจะช่วยตนเองไม่ได้ และระยะสุดท้ายคือนอนติดเตียง
- ระยะเวลาเฉลี่ยของโรคประมาณ 8-10 ปี (รู้ประมาณการแล้ว ผู้เป็นลูกหลานที่ต้องดูแลผู้ป่วย จัดลำดับความสำคัญของชีวิตให้ดีนะคะ)
โรคอัลไซเมอร์ รักษาได้ไหม
- ณ ปัจจุบัน ยังรักษามิได้ แต่ชะลอให้สมองเสื่อมช้าได้ รวมถึงควบคุมอาการทางจิตและพฤติกรรมได้
- ยาที่ใช้รักษามีราคาสูง ยาจะไปช่วยให้สารสื่อประสาทในสมองถูกทำลายทิ้งน้อยลง
- แต่เมื่อเวลาผ่านไป แม้สารสื่อประสาทจะถูกทำลายน้อยลง แต่เซลล์สมองก็ยังคงตายไปเรื่อง ๆ ดังนั้น อาการก็จะยังคงแย่ลงตามเวลาที่ผ่านไป
- อย่างไรก็ดี จากสถิติ คนไข้ที่ได้รับยามีอาการดีกว่าไม่ได้รับยา
- ยาที่ได้รับอาจมีผลข้างเคียง เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลื่นไส้อาเจียน บางครั้งก็หลีกเลี่ยงด้วยการใช้ยาแปะแทน จะได้ไม่ผ่านทางเดินอาหาร แต่แผ่นแปะก็อาจทำให้เกิดผื่นแดงได้ ร้อยละ 20
- ตัวอย่างยา เช่น Donepezil, Rivstigmine, Galantamin, Memantine
- วิตามิน E วิตามิน C ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าช่วยรักษาโรค
จะป้องกันโรคสมองเสื่อมได้อย่างไร
ท่อนนี้ อาจจะสนใจกันมากว่า จะป้องกันอย่างไร คำตอบคือ ต้องป้องกันในหลายด้าน
อาหาร
- ทานอาหารที่มี Omega 3
- ทานผัก ผลไม้
- หลีกเลี่ยงของหวาน ของมัน
ร่างกาย
- ออกกำลังกาย อย่าเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ
- ออกกำลังกายแบบสะสมได้ รวมแล้วให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์
- ลดน้ำหนัก อย่าให้น้ำหนักเกิน
- รักษาและระมัดระวัง โรคความดัน ไขมันสูง เบาหวาน
- ไม่สูบบุหรี่ ไม่ทานเหล้า
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
สมอง
- ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับสมอง เช่น ฟังดนตรี เล่นเกม นั่งสมาธิ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
จิตใจ
- อย่าเครียด
- ไม่ซึมเศร้า
- มองโลกในแง่ดี
- มีงานอดิเรก มีสังคม
ตอนต่อไป เราจะมาเล่าสู่กันฟังถึงปัญหาที่พบบ่อยในการดูแลผู้ป่วย และแนวทางสำหรับการดูแลผู้ป่วยกันค่ะ