คาถาลดความอ้วน

ใครที่ตั้งใจจะลดน้ำหนัก เชิญอ่านเรื่องนี้

เคยสงสัยว่า มีคาถาอะไรลดน้ำหนักได้ไหม ยิ่งอายุมาก ยิ่งลดยาก
คุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว แต่เผลอไผลแค่บางที น้ำหนักที่ตั้งใจจะบอกลาก็กลับมาหาทุกที

ปีนี้ ก็ตั้งใจต่อเนื่องว่า จะลดจริง ๆ นะ แต่มีอุบายอะไรจะช่วยเราได้บ้างหนอ

ลองค้นดู มีคาถาลดน้ำหนักอยู่จริง ในพระสูตรที่ชื่อว่า โทณปากสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗

ความโดยย่อมีอยู่ว่า พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่กรุงสาวัตถี พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเสวยข้าวสารหนึ่งทะนาน (หนึ่งลิตร) แล้วทรงอึดอัด เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าทรงทราบอาการของพระเจ้าปเสนทิโกศลจึงได้ทรงพระคาถาว่า

“มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประมาณในโภชนะที่ได้มา
ย่อมมีเวทนาเบาบาง เขาย่อมแก่ช้า ครองอายุได้ยืนนาน ฯ”

(คาถานี้ บาลีว่า
มนุชสฺส สทา สตีมโต มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน
ตนุกสฺส ภวนฺติ เวทนา สณิกํ ชีรติ อายุ ปาลยนฺติ.)

ณ เวลานั้น มาณพชื่อสุทัศนะ ยืนอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ (หลัง) พระเจ้าปเสนทิโกศลฯ

พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรัสเรียกสุทัสสนมาณพมาเพื่อรับสั่งให้เรียนคาถานี้ แล้วเวลาที่พระองค์ทรงบริโภคอาหารก็ให้ว่าคาถานี้ โดยจะให้ค่าตอบแทนวันละ 100 กหาปณะทุกวัน ฯ
(1 กหาปณะ มีอัตราเทียบเท่ากับ 20 มาสก หรือ 1 ตำลึง หรือ 4 บาทไทย)

ต่อมาสุทัสสนมาณพก็ได้ว่าคาถาดังกล่าว ในเวลาที่พระเจ้าปเสนทิโกศล เสวยพระกระยาหาร

และต่อมาอีกพระเจ้าปเสนทิโกศล ก็ทรงมีพระวรกายกระปรี้กระเปร่าดี ทรงลูบพระวรกายด้วยฝ่าพระหัตถ์ ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ทรงอนุเคราะห์เราด้วยประโยชน์ทั้ง 2 คือ ประโยชน์ภพนี้ และประโยชน์ภพหน้าหนอฯ

เพียงแค่ได้รับทราบเรื่องราวนี้ ก็เห็นด้วยกับพระเจ้าปเสนทิโกศล อย่างเกินร้อย

พระพุทธเจ้าทรงอนุเคราะห์พวกเราอย่างมาก เป็นบุญของชีวิตที่ได้เกิดมาในบวรพระพุทธศาสนา

ตอนนี้ เรื่องของความตั้งใจลดน้ำหนักของเราในปีนี้ ก็อยู่ที่ว่า จะตั้งสติได้ในเวลาบริโภคหรือไม่

แบ่งปันเรื่องราว โดยหวังว่า คาถานี้ จะช่วยเพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=2631&Z=2656

เย็นวันหนึ่ง ที่วัดมกุฏ

วันนี้ได้ไปร่วมงานศพที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ไปถึงเร็วกว่าเวลาสวดร่วมชั่วโมง เข้าใจว่าคนยังไม่เลิกฉลองสงกรานต์กัน รถจึงไม่ติด

เวลาไปถึงวัดนี้ก่อนเวลา สิ่งที่นิยมทำมีสองอย่าง อย่างแรกเดินไปทานหอยทอดร้านศิริวรรณแถวนั้น และอย่างที่สองคือ ไปกราบพระในพระวิหาร

วันนี้ เลือกทำเฉพาะประการหลัง คณะของเราเข้าไปกราบพระกัน พระวิหารงดงามเช่นเคย งามจากด้านหน้า และสงบเมื่อเข้าสู่ภายใน แค่ก้มลงกราบพระประธานแล้วนั่งนิ่ง ๆ สักพัก ก็อิ่มเอมใจ

วันนี้ยังมีโชคดีอีกชั้น กราบพระเสร็จ มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมด้วยความเมตตา มาสนทนาธรรมกับพวกเรา

ประเด็นมีหลากหลาย แล้วแต่ใครจะจับใจความสำคัญได้ตามจริตของตน สำหรับเราที่จำได้ (หากมีข้อผิดพลาดเราขอน้อมรับไว้เอง)

  • “ผู้ที่เข้าใจความตายก่อน คือผู้ชนะ”
  • “เรียนทางโลกแล้ว ควรเข้าวัดมาศึกษาสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตจริง ๆ บ้าง”

สุดท้ายแล้ว อะไรคือสิ่งสำคัญต่อชีวิตของเรา ในเมื่อทุกชีวิตจะพบกับมรณะทั้งสิ้น

หลวงพ่อท่านพูดให้คิดในหลาย ๆ มุม ผ่านบทสนทนาที่กันเองและเรียบง่าย เมื่อถึงเวลาอันสมควร การสนทนาก็ยุติ เปลี่ยนโหมดเข้าสู่การทำวัตรเย็น คณะของเราร่วมสวดตอนต้นเล็กน้อย ก่อนกราบลามาฟังสวดพระอภิธรรมศพตามที่ตั้งใจ

ทราบภายหลังว่า คณะเราโชคดี ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่บวชมาแล้วนานถึง 63 พรรษา ซึ่งท่านถ่อมตนและให้ความกรุณาแก่พวกเราเป็นอย่างมากโดยแท้

ขอกราบนมัสการขอบคุณท่านอีกครั้ง ที่ทำให้เย็นวันนี้ เป็นช่วงเวลามงคล ได้ฟังธรรม ได้คิด และเกิดความสงบใจ

 

Loving Vincent

Great things are done by a series of small things brought together.

—– Vincent Van Gogh —–

 

อยากจะไปดูหนังเรื่อง Loving Vincent ตั้งแต่ปลายปี แต่มิมีคนไปดูด้วย แถมกิจกรรมท้ายปียังมากมาย รอจนเหลือฉายอยู่โรงเดียวคือ House RCA สุดท้ายก็ได้ไป แถมฉายวันละรอบเดียวเอง ไปเกือบไม่ทัน โรงนี้ดี ไม่มีโฆษณาอะไรยืดยาว เราเข้าสายสามนาที หนังเริ่มฉายแล้ว

ก่อนไปดู รู้แต่ว่าจะได้ชมนิทรรศการภาพเขียนกว่าหกหมื่นรูปในหนังเรื่องนี้ ประเด็นนี้ก็ถูกต้อง ทีมงานที่ทำตั้งใจทำ ตั้งใจวาดกันจริง ๆ ภาพงดงาม และภาพในฉากมากมาย ก็เป็นภาพที่เราหรือใคร ๆ ที่เคยชมภาพของ Vincent Van Gogh คุ้นเคยกันดี

เนื้อเรื่องของเรื่องนี้ มีหลายมิติที่ชวนให้ติดตาม ตั้งแต่อะไรคือแรงบันดาลใจหรือความหมายให้คน ๆ หนึ่งต้องทำหน้าที่ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายของ Vincent ไปให้ถึงมือผู้รับ หรือมุมมองของคนแต่ละคนที่มีต่อ Vincent ที่ไม่เหมือนกัน มีเรื่องให้ลุ้น หรือให้เดากันตลอดเรื่อง แต่พอเฉลยแล้ว ก็ทำให้เห็นว่า ในมุมที่อาจจะคิดว่าไม่ดี ก็มีความดีและความงามซ่อนอยู่ไม่น้อย แล้วก็ทำให้เห็นว่า คนเราสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ด้วยพลังจากตนเองและจากการสนับสนุนของคนที่รักเรา

ชอบ Vincent Van Gogh อยู่แล้ว ดูหนังเรื่องนี้ก็ชอบมากขึ้นอีก He ช่างอ่อนไหว และอ่อนโยนอะไรเช่นนี้  โครงการถัดไปหลังจากดูหนังก็คือ ไปตามอ่านจดหมายของ Vincent ที่ http://vangoghletters.org/vg/  น่าจะช่วยทำให้เข้าใจตัวตนของจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้ได้มากขึ้นและลึกซึ้ง

เราไม่ได้พบใครในโลกนี้ ด้วยความบังเอิญ


เราไม่ได้พบใครในโลกนี้ ด้วยความบังเอิญ
ทุกคนผ่านเข้ามา ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ผ่านมาให้รัก ผ่านมาให้ไม่รัก
ผ่านมาให้สุข ผ่านมาให้ทุกข์
หรือผ่านมาเฉย ๆ
จะเนิ่นนาน หรือชั่วครู่ …
ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านไป … ทั้งสิ้น
แต่หากผูกพันกันมาก ย่อมพบกันอีก